ประเด็นสำคัญ
- พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 21 ราย ซึ่งเพิ่มสูงในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา
- รัฐมนตรีด้านสุขภาพเปิดเผยว่า 15 ราย จากทั้งหมด เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศกลับมายังออสเตรเลีย ซุ่งได้รับการกักตัวในโรงแรม
- มีโรงเรียน 3 แห่ง สถานดูแลผู้สูงอายุ 1 แห่ง และศูนย์การเรียนรู้ปฐมวัย 1 แห่ง ต้องปิดทำการชั่วคราว หลังพบผู้ติดเชื้อในสถานที่ดังกล่าว
รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ 21 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากที่สุด ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
นางเจนนี มิคาโคส (Jenny Mikakos) รัฐมนตรีด้านสุขภาพรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ (17 มิ.ย.) ว่า ยอดผู้ได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรัฐวิกตอเรีย ได้เพิ่มเป็น 1,762 ราย โดยผู้ติดเชื้อ 15 ราย จาก 21 รายคือผู้เดินทางระหว่างประเทศที่กลับมายังออสเตรเลีย ซึ่งขณะนี้ได้รับการกักตัวอยู่ในโรงแรม
นางมิคาโคส กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อ 2 ราย จากผู้ติดเชื้อที่พบล่าสุด 6 ราย มีความเชื่อมโยงจากการระบาดซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบดี ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายอื่น ๆ ได้รับการตรวจพบเชื้อจากการตรวจคัดกรองทั่วไป
มีพนักงานของโรงแรมสแตมฟอร์ด พลาซ่า คนหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงแรมที่ผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศต้องมากักตัว ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ ยังพบผู้สูงอายุในศูนย์ดูแลรอสทาวน์ คอมมิวนิตี (Rosstown Community) ในเมืองคาร์เนกีย์ (Carnegie) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครเมลเบิร์น มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำการล็อกดาวน์ศูนยดูแลดังกล่าว
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุขนาด 53 เตียง ซึ่งบริหารงานโดยเทศบาลเมืองเกล็น ไอรา (Glen Eira Council) แห่งนี้ จำเป็นจะต้องได้รับการทำความสะอาดอย่างละเอียด และติดตามเส้นทางการแพร่เชื้อต่อไป
ขณะที่พนักงานในสถานดูแลเด็กเล็กแห่งหนึ่งในนครเมลเบิร์น มีผลเป็นบวกในการตรวจหาไวรัสโคโรนา โดยในวันนี้ โฆษกหน่วยงานสาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย ยืนยันว่า พนักงานจากศูนย์การเรียนรู้ปฐมวัยอินสปิรา (Inspira Early Learning Centre) ในเมืองแกลดสตัน พาร์ก (Gladstone Park) ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ศูนย์ดูแลเด็กเล็กแห่งดังกล่าวจำเป็นต้องปิดให้บริการ
โดยพนักงานคนดังกล่าว เข้ามาทำงานในศูนย์การเรียนรู้ปฐมวัยแห่งนี้ขณะที่ติดเชื้อ เป็นเวลา 2 วัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยครอบครัวของพนักงานคนดังกล่าวได้รับการแจ้งเตือน ส่วนศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ต้องปิดทำการเพื่อทำความสะอาด และติดตามการแพร่เชื้อเป็นเวลาอย่างน้อย 1 วัน
การพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันล่าสุด เกิดขึ้นหลังจากรัฐวิกตอเรียได้สั่งปิดโรงเรียนเป็นแห่งที่ 3 ในสัปดาห์นี้ หลังพบเด็กคนหนึ่งมีผลตรวจหาไวรัสโคโรนาเป็นบวก
โดยนักเรียนคนดังกล่าว จากโรงเรียนประถมสตราธ์มอร์ (Strathmore Primary School) เป็น 1 ใน 9 ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ตรวจพบในรัฐวิกตอเรีย เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) โดยโรงเรียนแห่งนี้จำเป็นต้องปิดทำการเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ขณะที่ได้มีการทำความสะอาด และติดตามเส้นทางการแพร่เชื้อแล้ว
ส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 มิ.ย.) โรงเรียนประถมพาเคนแฮม สปริงส์ (Pakenham Springs Primary School) และโรงเรียนประถมเซนต์ดอมินิก (St. Dominic’s Primary School) ในเมืองบรอดเมโดวส์ (Broadmeadows) ต้องปิดทำการเรียนการสอน หลังพบนักเรียน 2 รายในแต่ละโรงเรียนติดเชื้อไวรัสโคโรนา
โดยนักเรียนที่พบการติดเชื้อ 4 ราย เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มก้อนการติดเชื้อในครอบครัวใหญ่ ซึ่งล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกหนึ่งราย เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) โดยมีสมาชิกครอบครัวทั้งหมด 12 ราย ติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากการรวมกลุ่มในบ้านหลังต่างๆในเมืองบรอดเมโดวส์ (Broadmeadows) โคเบิร์ก (Coburg) และเมืองพาเคนแฮม (Pakenham)
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
โควิด-19 เริ่มซา ผู้เชี่ยวชาญเตือนรักษาสุขภาพหัวใจ
