รัฐวิกตอเรียทำสถิติ ยอดติดโควิดรายใหม่เป็นศูนย์ครบสัปดาห์

รัฐวิกตอเรียทำสถิติไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ติดต่อกันครบสัปดาห์แล้ว มุขมนตรีเผยเตรียมประกาศโรดแมปคลายล็อกดาวน์เพิ่มตลอดเดือน พ.ย.นี้

Victoria records zero cases.

Victoria records zero cases. Source: Unsplash: Linda-xu

6 พ.ย. เป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ที่รัฐวิกตอเรียไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยในวันนี้ ข้อมูลล่าสุดจากหน่วยงานสาธารณสุขและบริการสังคมของรัฐวิกตอเรีย (DHHS) ได้ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยในรอบ 2 สัปดาห์ ในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น ได้ลดลงมาจาก 1.4 ราย เป็น 1.3 ราย

แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้ติดเชื้อไม่ทราบที่มาในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นในวันนี้ 2 ราย
แต่ นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้เตือนว่า ชัยชนะในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนานั้นยังคงอีกยาวไกล

“ตัวเลขในตอนนี้นั้นน่าพอใจมาก แต่เราไม่สามารถทำเหมือนกับว่า การไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดกัน 7 วัน เป็นเหมือนวัคซีนป้องกันไวรัสได้ ดังนั้น เราจึงยังการ์ดตกไม่ได้” นายแอนดรูส์ กล่าว 

นายแอนดรูส์ กล่าวอีกว่า ชาวรัฐวิกตอเรียจะพบกับความชัดเจนว่า จะมีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดในส่วนใดบ้าง ภายในการแถลงแผนแม่บทที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ (8 พ.ย.) ซึ่งมาตรการจำกัดระยะทางในการเดินทางสูงสุดไม่เกิน 25 กม. และการแยกพื้นที่ระหว่างมหานครเมลเบิร์น และพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย หรือ "ริง ออฟ สตีล (ring of steel)" มีกำหนดที่จะสิ้นสุดลง
Victorian Premier Daniel Andrews has announced the final steps out of lockdown.
Victorian Premier Daniel Andrews has announced the final steps out of lockdown. Source: Getty Images
มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า จะมีการขยายขีดจำกัดสำหรับร้านอาหาร บาร์ และร้านกาแฟมากขึ้น นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า จะมีการประกาศการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่รัฐบาลต้องการประกาศตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ 

ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ 6 รายในพื้นที่ท้องถิ่นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อแสดงอาการที่ยังคงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 68 ราย โดยในจำนวนดังกล่าว มีผู้ที่ต้องเข้ารับการดูแลในห้องไอซียู และมีบางส่วนที่ยังคงต้อใช้เครื่องช่วยหายใจ

นายไมเคิล โอ ไบรอัน (Michael O’Brien) ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของรัฐบาลรัฐวิกตอเรีย ชี้ว่า ควรทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อแสดงอาการลดลง ก่อนที่จะมีการปรับกฎเกณฑ์ให้ใกล้เคียงกับรัฐนิวเซาท์เวลส์    

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพิธีสมรส หรือการไปเที่ยวผับ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขันกีฬา หรือเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา รัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยกับไวรัสโคโรนา และมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับต่ำมาก” นายโอ ไบรอัน กล่าว

“รัฐวิกตอเรียมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ต่ำกว่ามาก แต่ชีวิตผู้คนยังถูกจำกัดในมาตรการล็อกดาวน์”

รัฐบาลรัฐวิกตอเรีย ได้ให้คำมั่นว่า จะเพิ่มขีดจำกัดจำนวนลูกค้าในภาคธุรกิจบริการของมหานครเมลเบิร์นเป็นไม่เกิน 40 คน ภายในอาคาร (ไม่เกิน 10 คนต่อพื้นที่หนึ่ง ๆ ) และไม่เกิน 70 คน สำหรับการบริการนอกอาคารสถานที่

นายโอ ไบรอัน ได้โต้แย้งว่า การกำหนดความหนาแน่นของลูกค้า ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดสถานบริการ มากกว่าการกำหนดเป็นตัวเลข ”ที่ไม่มีเหตุผล”  

“นั่นคือความแตกต่างสำหรับธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมาก ระหว่างที่ต้องเปิดหรือปิดกิจการ และเรื่องความอยู่รอดของพวกเขา” นายโอ ไบรอัน กล่าว  

รัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยังแสดงอาการ 15 ราย โดยไม่มีผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการในสถานดูแลผู้สูงอายุเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2 ราย โดยทั้งสองอยู่ในห้องไอซียู และมีผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นคนทำงานด้านสุขภาพที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาและยังแสดงอาการ โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ไปรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 18,671 คนในรัฐวิกตอเรีย

นอกจากนี้ คณะกรรมการไต่สวนหาความจริงกรณีโรงแรมกักกันโรคในนครเมลเบิร์น ได้มีการเปิดเผยรายงานเฉพาะกาลในการสอบสวนครั้งนี้ ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับโครงการกักกันโรค ซึ่งจะเปิดทางสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศมายังรัฐวิกตอเรียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 6 November 2020 3:13pm
Updated 6 November 2020 3:23pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends