ในจำนวนผู้ติดเชื้อในชุมชนรายใหม่ 35 ราย ที่มีรายงานในรัฐนิวเซาท์เวลส์วันนี้ มี 2 รายที่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานดูแลคนชรา นับเป็นรายงานผู้ติดเชื้อในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่ยังสูงอยู่ ในวันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม
โดยผู้ติดเชื้อ 33 รายเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ (cluster) ที่มีอยู่ และ 20 รายเป็นสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ
ซึ่งมี 24 รายจาก 35 รายที่กักตัวตั้งแต่ที่ได้รับแจ้งว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ในขณะที่ 11 รายนั้นอยู่ในชุมชนในระหว่างที่ติดเชื้อ
ในขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อของคลัสเตอร์ที่บอนได (Bondi) เพิ่มขึ้นเป็น 312 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 4 รายที่กำลังได้รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
ในขณะที่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อนั้นพุ่งสูงขึ้นจากตัวเลขที่รายงานในวันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม นางกลาดิส เบเรจิกเลียน ยังคงมั่นใจในมาตรการล็อกดาวน์ว่ามีประสิทธิภาพอย่างที่หวังไว้
“ดิฉันได้คาดการณ์ไว้เมื่อไม่กี่วันก่อนแล้วว่า ตัวเลข [ผู้ติดเชื้อ] มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นอีก นั่นคือสิ่งที่เราเห็นได้ในชั่วข้ามคืน” มุขมนตรีกล่าว
ดิฉันสามารถกล่าวได้ว่า การล็อกดาวน์นั้นมีประสิทธิภาพในการควบคุมไม่ให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นสองหรือสามเท่า ตามที่เรากังวล
นางแคร์รี แชนท์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวชมตัวเลขคนที่มาตรวจเชื้อสูง แต่ย้ำว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจว่าควรออกจากล็อกดาวน์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้หรือไม่
“ดิฉันดีใจจริงๆ ที่ได้เห็นว่า มีคนออกมาตรวจเชื้อในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เราสามารถหาข้อมูลของเคสที่ไม่เชื่อมโยงได้” นางแคร์รีกล่าวกับนักข่าว
ยิ่งเรามั่นใจว่าสามารถติดตามทุกเคสที่ติดเชื้อได้มากเท่าไหร่ นั่นยิ่งจะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น
คลัสเตอร์ในเอจแคร์ (aged-care) เพิ่มเป็น 5 ราย
ตัวเลขผู้ติดเชื้อของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ใน ซัมมิทแคร์ บัลค์แฮม ฮิลส์ (SummitCare Baulkham Hills) เพิ่มเป็น 5 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 รายในข้ามคืน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีรายงานวันนี้เป็นเพศหญิงในช่วงอายุ 70 ปีทั้งคู่ โดยหนึ่งในสองรายนี้ยังไม่ได้รับวัคซีน เนื่องจากเข้ารับการดูแลที่ซัมมิทแคร์ ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม หลังการฉีดวัคซีนในรอบแรกสิ้นสุดไปแล้ว
ผู้ติดเชื้อทั้ง 5 รายนั้นไม่แสดงอาการ และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเวสท์มีด (Westmead hospital) รวมถึงคนใกล้ชิดที่ได้รับผลการตรวจเป็นบวกอีกหนึ่งราย
คาดว่าผู้ติดเชื้อเหล่านี้ได้รับเชื้อจากพนักงานดูแล 1 คน ที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบทุกโดส
นางมิเชล สโลน หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของซัมมิทแคร์ ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่าเธอ “ผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง” กับการระบาดที่เกิดขึ้น
นางสโลนกล่าวว่า สถานดูแลไม่สามารถเรียกร้องหรือบังคับถามพนักงานได้ว่า พวกเขาได้รับวัคซีนแล้วหรือไม่ จนถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อรัฐบาลกลางประกาศให้การฉีดวัคซีนสำหรับคนที่ทำงานในสถานดูแลคนชราเป็นข้อบังคับ
“หากเราขอกับพนักงานของเราที่ยังไม่ได้รับวัคซีนว่า ‘อย่ามาทำงาน’ ก็คงไม่มีใครมาทำงาน” นางสโลนกล่าว
มันไม่เพียงแค่เรา แต่ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุทุกแห่งในออสเตรเลีย และทุกโรงพยาบาลในออสเตรเลีย
“เราจะรู้สึกดีกว่านี้ ถ้ามันถูกบังคับใช้ก่อนหน้านี้”
96 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ทำงานอยู่ในสถานดูแลคนชราได้รับวัคซีนไฟเซอร์แล้ว และหัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในพื้นที่ของสถานดูแลที่คาดไม่ถึง

The exterior of SummitCare agedcare home at Baulkham Hills in Sydney, Monday, July 5, 2021. Source: AAP
“ความเข้าใจของฉันคือ มีเคสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ที่เราคาดไว้ว่าจะมีเคสเกิดขึ้น ซึ่งมีมาตรการควบคุมดูแลการติดเชื้อที่เข้มงวดอยู่ในตอนนี้” แพทย์หญิงแชนท์กล่าว
“ทุกสิ่งที่เราทำ เราใส่ใจอย่างมากที่จะป้องกันการแพร่เชื้อในอนาคต แต่จนกว่าเราจะผ่านช่วงเวลา 14 วันที่ ผู้เกี่ยวข้องในสถานดูแลได้รับความเสี่ยงจากพนักงานที่ติดเชื้อ เรายังคงผ่านวิกฤตนี้ไปไม่ได้” แพทย์หญิงแชนท์กล่าว
สืบสวน’เข้ม’ที่ วอเทอร์ลู (Waterloo)
พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย เชื่อมโยงกับเที่ยวบิน VA524 ของสายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย (Virgin Australia) ในวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ในขณะที่มีผู้ติดเชื้ออีก 2 รายที่เชื่อมโยงกับปาร์ตี้วันเกิดที่ เวสท์ ฮ็อกซ์ตัน (West Hoxton) ทำให้คลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อรวมเป็น 45 ราย
สามเคสนี้เป็นผลจาก “การรวมตัว” เล็กๆ ในวันที่ 26 มิถุนายน ที่ เมอริตัน ส(Meriton Suite) ที่วอเทอร์ลู (Waterloo) ซึ่งจัดขึ้นในขณะที่มาตรการอยู่กับบ้าน (stay-at-home) บังคับใช้
“เราจะสอบสวนงานนี้อย่างละเอียด การปะติดปะต่อเรื่องราวอาจใช้เวลาในการทำงานนานหน่อย” แพทย์หญิงแชนท์กล่าว
เราดีใจที่มีคนออกมาตรวจเชื้อ นั่นคือข้อความที่ฉันอยากจะสื่อ โปรดออกมาตรวจเชื้อ
ในเวลาบ่ายของวันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม สาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์แจ้งเตือนเส้นทางรถไฟและรถประจำทางในซิดนีย์
นาย แกรี่ วอร์บอยส์ (Gary Worboys) รองผู้บัญชาการตำรวจกล่าวว่า มีการออกใบแจ้งค่าปรับ 125 ใบ กับผู้ที่ละเมิดกฎการล็อกดาวน์ภายในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
รวมถึงกลุ่มผู้เล่น NRL ที่ถูกจับได้ว่าละเมิดมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นที่บ้าน
ผมว่า คนเหล่านั้นที่คิดว่ากฎเกณฑ์นั้นไม่ใช่สำหรับพวกเขา คิดว่าพวกเขามีอภิสิทธิ์มากกว่าพวกเราที่เหลือ ที่จะไม่ฟัง แท้จริงแล้วคุณต้องฟัง เพราะคุณอาจเป็นคนที้แพร่เชื้อนี้ และทำให้เราต้องล็อกดาวน์นานกว่าที่ชุมชนที่เหลือต้องการ
มีการโทรรายงานการละเมิดกฎล็อกดาวน์กว่า 100 สาย ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์
บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่