กลุ่มธุรกิจส่งเสียงตอบรับแผนของรัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ที่เสนอยกเลิกความคุ้มครองพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า (frontline worker) ที่ติดโควิด-19
ด้านพรรคแรงงานและสหภาพแรงงานกล่าวว่า แผนดังกล่าวแข็งกร้าวรุนแรง ไม่จำเป็น และเหมือน “แทงข้างหลัง” บรรดาผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.) มุขมนตรีโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ ประกาศแผนถอนบทบัญญัติเกี่ยวกับโควิด-19 บทหนึ่งออกจากกฎหมายเงินทดแทนแรงงาน (Workers Compensation Act) บทดังกล่าววางข้อสันนิษฐานว่า ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวกนั้นติดเชื้อจากการทำงาน
ข้อสันนิษฐานนี้เอื้อให้ผู้ปฏิบัติงานในภาคการค้าปลีก การดูแลสุขภาพ ธุรกิจบริการ (hospitality) และสายงานด่านหน้าอื่น ๆ ยื่นคำร้องขอรับเงินทดแทนได้ง่ายขึ้นหากเจ็บป่วยจากโควิด-19
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

แฟร์เวิร์กตัดสินให้แรงงานฟาร์มมีสิทธิ์ได้ค่าจ้างขั้นต่ำ
“ตอนนี้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นกลับมาอย่างต่อเนื่อง เราอยากให้ธุรกิจลงทุนกับพนักงานใหม่และเพิ่มค่าแรง ไม่ใช่ทุ่มให้บิลเรียกเก็บค่าประกัน” นายเพอร์โรต์เทต์กล่าว
กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งออสเตรเลีย (Australian Industry Group) หรือ Ai Group ซึ่งเป็นสมาพันธ์นายจ้างรายใหญ่ของประเทศ เรียกร้องให้ฝ่ายอื่น ๆ ร่วมหนุนหลังบทแก้ไขนี้ โดยระบุว่า “สมควรแก่เวลาและสมเหตุสมผล”
“การถือว่านายจ้างในบางอุตสาหกรรมต้องรับผิดชอบโดยอัตโนมัติในกรณีลูกจ้างติดเชื้อโควิด-19 นั้นไม่ใช่การกระทำที่ยั่งยืนอีกต่อไป” นางเฮเลน วอลดรอน (Helen Waldron) ประธาน Ai Group ประจำรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าว
“เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมและขัดแย้งกับสามัญสำนึก หากจะทึกทักเอาว่าภาคอุตสาหกรรมเหล่านั้นมีโอกาสติดโควิด-19 จากการทำงานสูงท่วมท้น”
นางเจนนิเฟอร์ เวสตาคอตต์ (Jennifer Westacott) ประธานบริหารของสภาธุรกิจ (Business Council) สนับสนุนร่างแก้ไขนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่า เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ย่อมไม่อาจรู้ได้ชัดเจนเสมอไปว่าคนคนหนึ่งติดเชื้อมาจากที่ใด
การยกเลิกข้อสันนิษฐานว่าติดเชื้อจากที่ทำงานนับเป็นการยอมรับว่า “เราต้องอยู่ร่วมกับไวรัสนี้” นางเวสตาคอตต์กล่าว
แต่การที่บทแก้ไขจะผ่านสภานั้นอาจไม่เป็นไปอย่างราบรื่นนัก เมื่อพรรคแรงงานและพรรคกรีนส์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แผนดังกล่าว
นี่เป็น “การแทงข้างหลังคนทำงานนับแสนที่ร่วมต่อสู้กับโควิด” นางโซฟี คอตซิส (Sophie Cotsis) โฆษกฝ่ายค้านด้านแรงงานสัมพันธ์ กล่าว
“นายเพอร์โรต์เทต์คาดหวังให้พนักงานทำความสะอาดโรงพยาบาลที่ป่วยเพราะร่วมสู้กับโควิดต้องมาสู้กับประกัน iCare อีก”
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

กลุ่มธุรกิจแนะออสเตรเลียรับผู้ย้ายถิ่นที่มีทักษะอาชีพ 2 แสนคนต่อปี
รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า หากคงความคุ้มครองส่วนนี้ไว้ต่อไปอาจนำไปสู่คำร้องขอรับเงินทดแทนเพิ่มเติมกว่า 25,000 กรณีช่วงปีหน้า ซึ่งจะบีบให้ค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 950 ดอลลาร์
รวมแล้วคำร้องขอรับเงินทดแทนจากโควิด-19 อาจสร้างค่าใช้จ่ายแก่ระบบเงินทดแทนแรงงานเป็นเงินถึง 638 ล้านดอลลาร์ในปีหน้าตามการคาดการณ์ของรัฐบาล
ทว่า ตัวเลขนี้ยังคงเป็นที่กังขาสำหรับบางฝ่าย เช่น ส.ส.เดวิด ชูบริดจ์ (MP David Shoebridge) จากพรรคกรีนส์ ที่ออกตัวสนับสนุนบทคุ้มครองนี้
“ค่าใช้จ่ายจนถึงทุกวันนี้ยังไม่ถึง 20 ล้านดอลลาร์ และรัฐบาลประเมินเบื้องต้นว่าตัวเลขอาจสูงกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสี่ปีข้างหน้า” ส.ส.ชูบริดจ์ กล่าวกับเอเอพี
พร้อมทั้งเสริมว่า หากแผนแก้ไขผ่านสภา อาจทำให้ “แทบเป็นไปไม่ได้” ที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าจะพิสูจน์ว่าตนติดไวรัสจากการทำงาน
นายมาร์ก มอเรย์ (Mark Morey) เลขาธิการสมาพันธ์สหภาพแรงงานแห่งนิวเซาท์เวลส์ (Unions NSW) เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแผนปรับแก้ไขครั้งนี้ที่ “รุนแรงแข็งกร้าว ใจดำ และไม่จำเป็น”
“รัฐบาลประหยัดเพียงเล็กน้อย แต่ผลกระทบต่อคนทำงานแต่ละคนนั้นมหาศาล” นายมอเรย์กล่าว
ติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

ตัวเลขตกงานยังสูงในออสเตรเลีย